มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเขาเสียใจที่ไม่คมพอ ทำให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก ต้องเหนื่อยถึงต่อเวลากว่าจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แอนโทนี่ ทำประตูตีเสมอให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 ช่วงท้ายเกม แต่พวกเขามีโอกาสทองจะปิดจ็อบภายใน 90 นาที เมื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น ยกบอลให้ แรชฟอร์ด หลุดไปยิงแต่ซัดถากไปเหลือเชื่อ
เมื่อเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ยิงให้ ลิเวอร์พูล นำอีกครั้ง แต่ แรชฟอร์ด ก็ยิงตีเสมอและเกมทำท่าว่าจะต้องดวลจุดโทษ แต่แล้ว อาหมัด ดิยัลโล่ เป็นซูเปอร์ซับยิงประตูชัยในนาทีที่ 120+2 ให้ “ปีศาจแดง” พลิกคว้าชัยเหลือเชื่อ
แมนฯ ยูไนเต็ด จะเข้าไปพบกับ โคเวนทรี ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ แต่หลังจบเกม แรชฟอร์ด ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าถ้าเขาคมกว่านี้ก็คงจบเกมตั้งแต่ 90 นาทีแล้ว
“ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์ ผมต้องทำประตู ผมหวังว่ามันน่าจะจบได้ใน 90 นาที แต่เราก็ปิดจ็อบสำเร็จ ดังนั้นตอนนี้เราจึงผ่านเข้ารอบต่อไปได้ และเราต้องผลักดันต่อไป และพยายามคว้าบางอย่างให้ได้เมื่อจบฤดูกาล” แรชฟอร์ด บอกกับ ITV Sport
“วันนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่มันเป็นตัวแทนสำหรับผมมาโดยตลอด ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันเป็นค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมใหญ่กับ ลิเวอร์พูล และเรามีความสุขที่เราผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ แต่ถึงแม้หากเป็นเกมปกติกับ ลิเวอร์พูล เราก็ต้องชนะ”
